ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย. ในกลุ่ม ไอ “สิงโตคำราม” อังกฤษ เปิดรังเวมบลีย์ต้อนรับ แอลเบเนีย เกมนี้แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงไปประสานแนวรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น และ แฮร์รี่ เคน
เริ่มเกมไปเพียง 9 นาที แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยิงประตูให้เจ้าถิ่นออกนำไปก่อนอย่าวรวดเร็ว หลังจากนั้น “สิงโตคำราม” ยิงเพิ่มได้อีก 4 ประตูจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในนาที 28 ปิดท้ายด้วย แฮร์รี่ เคน ซัดแฮตทริกเหมาคนเดียว 3 ประตูในนาทีที่ 18, 33 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วงก่อนจบครึ่งแรกไปแล้ว 2 นาที จบ 45 นาทีแรก อังกฤษ นำห่างไปไกลถึง 5-0 เข้าสู่ครึ่งหลังไม่มีการยิงประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน “สิงโตคำราม” เป็นฝ่ายชนะ 5-0 และยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป มี 23 คะแนนจากการลงเตะไปแล้ว 9 นัด นำหน้า โปแลนด์ ทีมอันดับ 2 อยู่ 3 คะแนน ทำให้ อังกฤษ ใกล้จะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเต็มแก่ โดยนัดสุดท้ายขอเพียงแค่ไม่บุกไปแพ้ ซาน มาริโน จะได้ลอยลำในฐานะแชมป์กลุ่มนี้ไปเลย
ส่วนในกลุ่ม ซี “อัซซูรี่” อิตาลี แชมป์ยูโร 2020 เปิดถิ่นสตาดิโอ โอลิมปิโก้ ต้อนรับ สวิตเซอร์แลนด์ เกมนี้ “มันโช่” โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจให้ อันเดรีย เบล็อตติ ยืนเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานกับ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า
เริ่มเกมไปเพียง 11 นาที สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นนำไปก่อนจาก ซิลวาน วิดมาร์ หลังจากนั้น โจวานนี่ เด ลอเรนโซ่ ยิงตีเจ๊าให้เจ้าบ้านในนาทีที่ 36 จบครึ่งแรก เสมอ 1-1 เข้าสู่ครึ่งหลัง อิตาลี มีโอกาสได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม เพราะได้ลูกจุดโทษในนาทีสุดท้าย แต่ จอร์จินโญ่ กลับสังหารพลาดยิงข้ามคานออกไปเลย หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 แต่ “อัซซูรี่” ยังคงรั้งจ่าฝูงกลุ่มนี้ แข่ง 7 นัด มี 15 แต้ม เท่ากับ สวิตเซอร์แลนด์ ทีมอันดับ 2 ทว่าทีมแชมป์ยูโร 2020 มีผลต่างประตูได้เสียมากกว่าเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น ทำให้ทั้งสองทีมยังต้องรอลุ้นเข้ารอบในเกมนัดสุดท้ายว่าทีมใดจะเข้าป้ายแชมป์กลุ่มที่จะได้สิทธิ์ลอยลำแบบอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับ 2 ในฐานะแชมป์กลุ่มจะได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเพ่อลุ้นแย่งตั๋วเข้ารอบกันต่อไป
